🇹🇭มาลาริน🧡วันนี้(5ส.ค.)ป่วย20,920คน รักษาหาย17,926คน เสียชีวิต160คน/ฉีดวัคซีนไขว้ได้ผลดีภูมิสูงขึ้น/รพ.รามาฯเปิดจองAZ

ปูเสื่อโควิด’เสียชีวิต160ราย ติดเชื้อรายใหม่ยังทะลุ20,920ราย
วันพฤหัสบดี ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 07.53 น.



https://www.naewna.com/local/592797

เพี้ยนจริงจังผลหลังฉีด'วัคซีนโควิด'สูตรสลับชนิดแล้วกว่า 1 แสนราย



สธ.เผยไทยฉีดวัคซีนโควิด19สูตรสลับชนิดแล้วกว่า 1 แสนคน ยังไม่มีปัญหา ย้ำมีความปลอดภัย –ประสิทธิภาพสูง ส่วนการฉีดบูสเตอร์โดสพิจารณาหลัง 3-6เดือน ภายใต้ข้อมูลวิชาการรองรับ
 
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงความกังวลของคนไทยในการฉีดวัคซีนสูตรSA คือ ซิโนแวคเข็มที่ 1 และแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ 2 ว่า ความกังวลมี 2 ส่วน คือ....👇

1.ความปลอดภัย ด้วยวัคซีนแต่ละชนิดที่ฉีดในขณะนี้ยังเป็นการใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่มีความปลอดภัยสูง สำหรับประเทศไทยมีการฉีดสะสมเกือบ 20 ล้านโดส ยังไม่พบการเสียชีวิตจากวัคซีนโดยตรง ดังนั้น วัคซีนที่ใช้เป็นสูตรสลับ 2 ชนิดมีความปลอดภัย

      “ความกังวลว่าฉีดวัคซีนสลับชนิดแล้วมีความปลอดภัยหรือไม่ ตามข้อมูลล่าสุด ฉีดวัคซีนสูตรสลับไปแล้วมากกว่า 1 แสนคน ยังไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ ข่าวที่ระบุว่ามีการเสียชีวิตนั้น มีผลการชันสูตรพลิกศพพิสูจน์ชัดเจนว่าเกิดจากเนื้องอกในสมอง ซึ่งไม่เกี่ยวกับวัคซีน ดังนั้น มีความปลอดภัย”นพ.โอภาสกล่าว 
        
และ 2.ประสิทธิภาพของวัคซีนสลับชนิด ข้อมูลจากการศึกษาชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม และจะมีการตีพิมพ์เป็นเอกสารวิชาการในเร็วๆ นี้ โดยพิสูจน์แล้วว่าการฉีดวัคซีนสลับชนิด สูตร SA ประสิทธิผลในห้องแล็ป พบว่า มีการสร้างภูมิคุ้มกันได้เทียบเท่ากับการฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ 2 เข็มห่างกัน 12 สัปดาห์ ฉะนั้น ไม่มีปัญหาด้านประสิทธิภาพ ประเทศไทยจึงพยายามใช้สูตรนี้ในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กลุ่มเป้าหมายโดยเร็วที่สุด

ต่อข้อถามการบูสเตอร์เข็มที่ 3 สำหรับผู้ที่ฉีดสูตรSAนั้น นพ.โอภาส กล่าวว่า...👇

สูตร SA เพิ่งเริ่มฉีด ซึ่งการจะฉีดเข็ม 3 มีคำถามสำคัญว่า จะฉีดหลังจากเข็ม 2 เมื่อไหร่ ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่บอกได้ชัดเจน แต่ทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 3 - 6 เดือนหรือนานกว่านั้น ขณะนี้จึงต้องเก็บข้อมูลและติดตามดูว่า ระยะ 3-6 เดือนที่รับวัคซีนไปแล้ว ภูมิคุ้มกันตกลงอย่างไร แล้วต้องกระตุ้นอีกหรือไม่ ทั้งนี้ ก็จะเป็นการศึกษาข้อมูลและวิจัยเพิ่มเติมซึ่งเหมือนกันทั่วโลก

      นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า เบื้องต้นในทางทฤษฎีหากมีการฉีดวัคซีนแพลตฟอร์มต่างกัน ที่เป็นการกระตุ้นภูมิฯ คนละระดับ ก็จะส่งผลดี  วัคซีนซิโนแวค เป็นการกระตุ้นภูมิระดับ Humoral immunity ส่วนแอสตร้าฯ จะเป็นระดับ Cellular immunity ซึ่งมีข้อดีต่างกัน ดังนั้น 2 ตัวนี้ก็จะเสริมกัน ทั้งหมดนี้จะต้องมีการอาศัยข้อมูลทางวิชาการและติดตามข้อมูลอีกระยะหนึ่ง

  "ทฤษฎีของบูสเตอร์ คือไม่ได้เริ่มจากศูนย์  เมื่อมีการฉีดวัคซีนเพิ่มเข้าไปก็จะมีการกระตุ้นภูมิฯ ได้เร็วมาก เพราะเซลล์ร่างกายจดจำไวรัสได้ แต่มีแนวโน้มในการกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วย 2 เหตุผล คือ 1.ไวรัสกลายพันธุ์ ซึ่งหากไม่มีสายพันธุ์เดลต้า โลกเราจะอยู่ง่ายกว่านี้ และ 2.ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะมีการกลายพันธุ์ไปอีกอย่างไร เป็นสิ่งที่ทํานายไม่ได้ ดังนั้นต้องติดตามข้อมูลทางวิชาการเพิ่มเติม" นพ.โอภาส กล่าว

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/952878

เพี้ยนเสียงสูงศักดิ์สยาม โชว์ผลตรวจภูมิคุ้มกัน โควิด สูงปรี๊ด หลังฉีดซิโนแวค-แอสตร้าฯ

ศักดิ์สยาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โชว์ ผลตรวจภูมิคุ้มกัน โควิด สูงปรี๊ด หลังฉีดซิโนแวค-แอสตร้า เผย ก่อนหน้านี้เคยป่วยติดเชื้อมาแล้ว
  
วันที่ 4 ส.ค.2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยกับสื่อมวลชนกระทรวงคมนาคม ผ่านไลน์กลุ่ม ว่า เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ไปเข้ารับการตรวจหาภูมิคุ้มกัน โรคโควิด-19 โดยพบว่า ภูมิคุ้มกันขึ้นสูงมากมีค่าเท่ากับ 14,395 โดยก่อนหน้านี้ตนได้ฉีดวัคซีนซิโนแวค จำนวน 1 เข็ม

นายศักดิ์สยาม เปิดเผยต่อว่า จากนั้น ตนติดเชื้อโควิด-19 และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งภายหลังจากที่หายป่วย ได้ทำการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า อีก 1 เข็ม จากนั้น ได้ทำการตรวจหาภูมิคุ้มกัน โดยพบว่า ล่าสุดภูมิคุ้มกันขึ้นสูงมาก

https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6545564

 
 
เพี้ยนแคปเจอร์วันนี้! รพ.รามาธิบดี เปิดให้จองฉีดวัคซีนโควิดแอสตร้าเซเนก้า
 
โดย PPTV Online
เผยแพร่ 5 ส.ค. 2564 ,07:00น.


   
รพ.รามาธิบดี เปิดให้จองฉีดวัคซีนโควิด "แอสตร้าเซเนก้า" ผ่าน RAMACOVID CallVaccine สำหรับ 3 กลุ่ม ตั้งแต่ 5 ส.ค. เริ่มฉีด 9 ส.ค.64

โรงพยาบาลรามาธิบดี แจ้งผ่านเคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี Faculty of Medicine Ramathibodi Hospital

เปิดให้ประชาชนจองฉีดวัคซีน ผ่านทาง RAMACOVID CallVaccine โทร. 0-2078-9078 ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2564 เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าจะครบจำนวนของวัคซีน โดยระบุว่าเป็นการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 1 ยี่ห้อ แอสตร้าเซเนก้า ( AstraZeneca ) ทั้งนี้ รพ.รามาธิบดี กำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิจองฉีดวัคซีนดังนี้ 
 
สำหรับผู้ที่จะจองฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้ากับรพ.รามาธิบดี ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
 
1.ประชาชนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
 
2.ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง
 
•โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง
  
•โรคหลอดเลือดสมอง
 
•โรคหัวใจและหลอดเลือด
 
•โรคเบาหวาน
 
•โรคไตเรื้อรังระยะ 5 ขึ้นไป
 
•โรคอ้วน
 
•โรคมะเร็งทุกชนิด
 
3.หรือหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป  
 
แจ้งจองฉีดวัคซีนได้ทาง RAMACOVID CallVaccine โทร. 0-2078-9078 เริ่มจองตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2564 เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าจะครบจำนวนของวัคซีน
 
กำหนดฉีดวันที่ 9-13, 16 สิงหาคม 2564 เวลา 08.00-16.00 น. ณ Sky Hall ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว
 
https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E/153213

เพี้ยนปักหมุดผลการตรวจเชิงรุกทำให้พบการติดเชื้อมากขึ้น รีบรักษาให้หาย

เพราะเดลต้าแพร่เชื้อได้เร็วควรต้องเชื่อคำแนะนำจากสธ.และรัฐบาล

ให้ความร่วมมือหยุดเชื้อเพื่อชาติค่ะ

เราจะสู้ไปด้วยกัน....พาพันไฟท์ติ้ง

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 28
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 5 สิงหาคม 2564 เวลา 12.30 น.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ประจำวันที่ 5 สิงหาคม 2564 เวลา 12.30 น.

กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 5 สิงหาคม 2564 เวลา 13.30 น.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ณ กระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 5 สิงหาคม  2564


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม 2564
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/379996643618666


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19
ณ วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม 2564

ประเทศไทย
วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 20,920 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 693,305 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯเพิ่มขึ้น 17,312 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง  262 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น  8 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้  3,338 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 167,140 ราย)

เสียชีวิตรวม 5,663 ราย(วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 160 ราย)
รักษาหายป่วยแล้ว 473,732 ราย (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 17,926 ราย)
รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 213,910 ราย

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ (ไม่รวมเรือนจำ) 20,650 ราย มีรายละเอียดดังนี้ จากกรุงเทพฯ(4,140) ปริมณฑล (4,192) จังหวัดอื่น ๆ (12,318)

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 8 ราย และเข้า Quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่ภูเก็ต(4)  สระแก้ว(2)  สุราษฎร์ธานี(1) และ เชียงราย(1) มีรายละเอียดดังนี้
- จากประเทศสหราชอาณาจักร 3  ราย
- จากประเทศเกาหลีใต้ 1 ราย
- จากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1  ราย
- จากประเทศเมียนมา 1 ราย
- จากประเทศกัมพูชา 2 ราย

สถานการณ์โลกในวันนี้
- ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 200.9  ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 4.2 ล้านราย(คิดเป็นร้อยละ 2.12 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ) ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 180.9  ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 90.05)
- สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่  112,279 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 631,299 ราย
- อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 31.8 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 42,817 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 30.9 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 97.3
- ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 40  และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 63 ของโลก

สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
- เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 315,118  ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 4,431 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 10,695 ราย
- มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,183,110 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ อยู่ที่ 19,819  ราย
- กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 79,634 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 1,488 ราย
- ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 7,305 ราย โดยกำลังรักษาอยู่ 3,494 ราย
- เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่   7,623  ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 2,327 ราย

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนาสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
https://web.facebook.com/nrctofficial/posts/4035175576607984
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่